สวัสดีค่ะผู้ที่เยี่ยมชมบล็อกทุกท่าน บล็อกนี้จัดทำขึ้นเพื่อการเรียนการสอนเป็นส่วนหนึ่งของวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเเละการสื่อสารดั่งนี้ค่ะ
1. เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
2.ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
3.การสื่อสารการเรียนการสอน4.คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
5.ซอฟต์แวร์
6.ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
7.อินเตอร์เน็ต
8.ห้องสมุดรอิเล็กทรอนอกส์และอ้างอิง
9.การประยุค์ใช้ ผู้จัดทำหวังว่าเนื้อหาทั้งหมดจะเป็นประโยช์ต่อผู้ชมทุกท่านค่ะ

คำอธิบายรายวิชา
........ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยี สารสนเทศ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เช่น ไมโครซอฟท์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ระบบการสื่อสารข้อมูล ระบบเน็ตเวิร์ค ระบบซอฟท์แวร์ การจัดการทรัพยากรสารสนเทศ เครื่องมือการเข้าถึงสารสนเทศ ทักษะการเข้าถึงสารสนเทศ ฐานข้อมูลสารสนเทศ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์และการอ้างอิง ฝึกปฏิบัติการ สามารถใช้คอมพวิเตอร์ขั้นพื้นฐานและเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้อย่าง เหมาะสมได้

วัตถุประสงค์ในรายวิชา
........เมื่อผู้เรียนศึกษาเนื้อหาบทเรียนจบแล้วตามหลักสูตรแล้วจะมีพฤติกรรมหรือความสามารถดังนี้
1. อธิบายความหมาย ความสำคัญ และองค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศได้
2. อธิบายความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารได้
3. ยกตัวอย่างเทคโนดลยีสารสนเทศและการสื่อสารในชีวิตจริงได้
4. อธิบายความหมายและความสำคัญของวิธีระบบได้
5. อธิบายความสัมพันธ์ของวิธีระบบกับเทคโนโลยีสารสนเทศได้
6. บอกความหมายและองค์ประสกอบสำคัญๆของคอมพิวเตอร์ได้
7. อธิบายหน้าที่ขององค์ประกอบของคอมพิวเตอร์ได้
8. บอกประเภทและคุณสมบัติของซอฟท์แวร์แต่ละประเภทได้
9. บอกความหมายและความสำคัญของอินเตอร์เน็ตได้
10. บอกความสัมพันธ์ของเครือขายคอมพิวเตอร์และเครือข่ายอินเตอร์เน็ตได้
11. อธิบายแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงเป็นเครือข่ายได้
12. อธิบายวิธีประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษาได้
13. ยกตัวอย่างโปรแกรมต่าง ๆ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนการสอนได้
14. สร้างสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนการสอนได้
15. นำเสนอสื่อเทคโนโลยีสารสนเทศทั้งที่เป็นสื่อทั่วไปและสื่อระบบเครือข่ายได้

เนื้อหาบทเรียน
หน่วยการเรียนที่ 1 ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
หน่วยการเรียนที่ 2 ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
หน่วยการเรียนที่ 3 คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
หน่วยการเรียนที่ 4 ซอฟต์แวร์
หน่วยการเรียนที่ 5 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
หน่วยการเรียนที่ 6 อินเตอร์เน็ต
หน่วยการเรียนที่ 7 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการเรียนการสอน
หน่วยการเรียนที่ 8 การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอผลงาน

รูปแบบของกระบวนการเรียนการสอน

วิธีสอน : เป็นการเรียนการสอนแบบผสมผสาน (Blended Learning)
เนื้อหาบทเรียน : เนื้อหาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครู
เครื่องมือกำกับการเรียนรู้ : ความซื่อสัตย์(integrity)
กิจกรรมการเรียนการสอน
-การบรรยายประกอบสื่อในชั้นเรียนปกติ (traditional classroom)
-การศึกษาค้นคว้าด้วยสื่อออนไลน์หรือเว็บบล็อก
-การสรุปและนำเสนอในชั้นเรียนด้วยสื่อ ICT
-การอภิปรายแสดงความคิดเห็น
-การสรุปเป็นรายงาน
-การทดสอบเพื่อวัดและประเมินผล

หน่วยที่8

หน่วยที่8 ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ เเละ การอ้างอิง

ความหมายห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
E-Library หรือ ห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
     ความหมาย E-library มาจากคำว่า Electronic Library หรือห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง แหล่งความรู้ที่บันทึกข้อมูลไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายและให้บริการสารสนเทศทางอิเล็กทรอนิกส์หรือผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
     
ประวัติความเป็นมา ห้องสมุดเป็นแหล่งสำคัญของชาติในการถ่ายทอดความรู้ ตามประกาศองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งชาติ ใน “กฎบัตรว่าด้วยหนังสือ” ตั้งแต่ปี 1972 มาจนถึงปัจจุบันประเทศต่าง ๆ ยังคงยึดมั่นในหลักการดังกล่าว ห้องสมุดจึงได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง เมื่อเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีสารสนเทศ กอปรกับสภาพสังคมที่ให้ความสำคัญกับฐานความรู้ห้องสมุดจึงมีขอบข่ายให้บริการกว้างขวางมากขึ้น และถูกเรียกขานด้วยชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ศูนย์ข้อมูลการศึกษา  ศูนย์เอกสาร และศูนย์วิทยบริการ ห้องสมุดเป็นสถาบันที่ทำหน้าที่จัดเก็บรวบรวมสารสนเทศ และอารยธรรมของมนุษยศาสตร์ในทุกยุคทุกสมัย ระบบและวิธีการจัดเก็บหนังสือและสารสนเทศในห้องสมุดยุคเดิมที่จัดจำแนกประเภทหนังสือและให้บริการต่าง ๆ ในระบบมือทั้งหมดนั้น ไม่สามารถตอบสนองความต้องการการใช้สารสนเทศของผู้บริการในโลกยุคข้อมูลข่าวสารได้ครบถ้วน ห้องสมุดจึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบระบบและวิธีการจัดเก็บเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยการนเทคโนโลยีสารสนเทศ  อันได้แก่ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดเก็บค้นหาสารสนเทศ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมที่ใช้ในการเชื่อมโยงผู้ใช้กับการฐานข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ในระบบเครือข่ายที่เชื่อมโยงถึงกันทั้งภายในห้องสมุดเอง ภายในสถาบัน ระหว่างสถาบัน และระหว่างประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก 
     
วัตถุประสงค์ เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บทรัพยากรห้องสมุดที่มีเพิ่มมากขึ้น (Reynolds, 1985 : 208) โดยการจัดเก็บสารสนเทศในห้องสมุดให้เป็นระบบฐานข้อมูลอัตโนมัติที่จัดเก็บสื่อต่าง ๆ ได้ทุกรูปแบบสามารถเชื่อมโยงกับเครือข่ายในระดับต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
     ลักษณะของห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์
1. การจัดการทรัพยากรสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์
2. ความสามารถในการเข้าถึงสารสนเทศโดยทางอิเล็กทรอนิกส์
3. บรรณารักษ์หรือบุคลากรของห้องสมุดสามารถแทรกการติดต่อระหว่างผู้ใช้กับห้องสมุดได้ เพื่อช่วยเหลือผู้ใช้ได้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์
4. ความสามารถในการจัดเก็บ รวบรวมและนำส่งสารสนเทศสู่ผู้ใช้โดยทางอิเล็กทรอนิกส์
     เป้าหมาย การประยุกต์ใช้ E-Library เพื่อการศึกษา
     ข้อดีหรื่อประโยชน์ของการพัฒนาห้องสมุดอิเล็กทรอนิกส์ คือ การจัดเก็บข้อมูลที่เป็นระบบช่วยเพิ่มความรวดเร็ว ในการเข้าถึงข้อมูลหรือค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้ในเวลาที่ต้องการเป็นการแพร่กระจายความรู้ให้ผู้ใช้ได้รับความสะดวกยิ่งขึ้นโดยไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่เช่นเดียวกับการดำเนินงานขององค์กรในลักษณะ e-Office และ e-Commerce เป็นต้น
     ข้อเสียหรื่อข้อจำกัด
-ผู้ใช้จะต้องมีอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ อินเตอร์เนต
-ผู้ใช้ต้องมีทักษะการใช้คอมพิวเตอร์

วิเคราะห์เหตุที่มี E-library เกิดขึ้น สอดคล้องกับสังสมปัจจุบันอย่างไร
     จะเห็นว่าปัจจุบันนี้โลกแคบไปมาก ความรู้เปลี่ยนแปลงเร็วมาก สังคมก็เป็นสังคมฐานความรู้ คนที่มีความรู้ดี มีความรู้ทันสมัยก็จะได้เปรียบ จะทำอะไรก็ต้องทำด้วยการอาศัยหลักวิชา ฉะนั้นการหาความรู้อยู่เสมอจึงเป็นเรื่องจำเป็น การรู้วิธีหาความรู้จึงเป็นเรื่องที่ต้องสอนให้กับนักเรียนทุกคน การสอนวิธีหาความรู้จึงเป็นเรื่องสำคัญกว่าการสอนความรู้สำหรับโลกอนาคต เพราะเนื้อหาสาระความรู้จะเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา ฉะนั้นในการสอนจะต้องสอนให้รู้วิธีหาความรู้ สอนให้รักการศึกษาค้นคว้าหาความรู้ ฉะนั้นเครื่องมือในการหาความรู้ที่จำเป็นสำหรับเด็กก็ ได้แก่ ความรู้และทักษะในการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อหาความรู้ นอกจากนั้นเวลาไปไหนก็มักจะต้องพบกับเทคโนโลยี ผู้ใหญ่หลายคนไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะสังคมปัจจุบันเป็นสังคมกดปุ่มมากข้น คนใช้เทคโนโลยีไม่เป็นก็รู้สึกว่าจะดำรงชีวิตอยู่ในสังคมลำบาก เริ่มตั้งแต่การใช้โทรศัพท์จะต้องรู้ว่าสามารถใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง บางคนซื้อโทรศัพท์มาอย่างดีแต่ใช้ได้แค่โทรออกกับรับเท่านั้น เปิดรับข้อความ ส่งข้อความ บันทึกข้อความ หรืออื่น ๆ ทำไม่เป็นเลย ยิ่งถ้าไปต่างประเทศจะเห็นชัดว่าจะต้องใช้เทคโนโลยีสำหรับชีวิตประจำวันเป็น ขึ้นรถเมล์ รถใต้ดิน เข้าสวนสนุก และอะไร ๆ ก็ต้องเสียบการ์ด หยอดเหรียญทั้งนั้น คนไม่รู้ก็อยู่ลำบาก ฉะนั้นในการจัดการศึกษาเพื่อสังคมโลกอนาคตจะต้องสอนให้รู้วิธีหาความรู้ และมีความรู้ความสามารถในการใช้คอมพิวเตอร์

3 ความคิดเห็น: